คุณภาพกําไรและเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย / ลลิตยา ศิริพงษ์.

By: ลลิตยา ศิริพงษ์ [ผู้แต่ง]Contributor(s): อรฤดี ศรีธราพิพัฒน์ [ที่ปรึกษา] [ที่ปรึกษา] | มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย. สาขาวิชาการบัญชีMaterial type: TextTextPublisher: 2562Description: Online resourceContent type: text Media type: computer Carrier type: online resourceSubject(s): กำไร | กำไรต่อหุ้น | กำไรของบริษัท | เงินปันผล | บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย | คุณภาพกําไร | ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคDDC classification: 658.155 Online resources: Full-Text Dissertation note: การศึกษาค้นคว้าอิสระ (บช.ม. (การบัญชี)) -- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, 2562. Summary: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) แนวโน้มคุณภาพกำไรและเงินปันผล 2) ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพกำไรกับเงินปันผล และ 3) ศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพกำไรและเงินปันผลโดยจำแนกตามขนาดธุรกิจ โดยเก็บข้อมูลจากบริษัทจดทะเบียนในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มตัวอย่าง คือ บริษัทในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค จำนวน 20 บริษัท แบ่งออกเป็น 2 ขนาดธุรกิจ คือ ธุรกิจขนาดใหญ่ จำนวน 17 บริษัท และธุรกิจขนาดกลางจำนวน 3 บริษัท ศึกษาข้อมูลจากงบการเงินรายปีในระหว่าง ปี พ.ศ. 2556 - 2561 รวม 6 ปี งานวิจัยนี้ใช้สถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสำหรับสถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐาน คือ การวเิคราะห์สัมประสิทธิสหสัมพันธ์ของเพียรสัน กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และการวิเคราะห์เปรียบเทียบคุณภาพกำไรและเงินปันผลโดย จำแนกตามขนาดธุรกิจด้วย t-test กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการศึกษาพบว่า 1) บริษัทส่วนใหญ่มีดัชนีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานแสดงค่าผันผวนซึ่งชี้ให้เห็นถึงการทำกำไรไม่สม่ำเสมอ เมื่อศึกษาปี พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นปีล่าสุดพบว่า บริษัทส่วนใหญ่มีดัชนีกระแสเงินสด จากการดำเนินงานแสดงค่าบวก และมีค่ามากกว่า 1 ซึ่งอยู่ระหว่าง 1.031 เท่า ถึง 7.880 เท่า แสดงว่าบริษัทสามารถก่อให้เกิดกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้ในจำนวนที่สูงพอๆ กับกำไรที่หามาได้และถือว่ากำไรมีคุณภาพ 2) บริษัทส่วนใหญ่มีอัตราเงินปันผลตอบแทนแสดงค่าผันผวน ชี้ให้เห็นถึงการจ่ายเงินปันผลไม่สม่ำเสมอ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทได้เมื่อศึกษาปี พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นปีล่าสุดพบว่า อัตราเงินปันผลตอบแทนประมาณ 0.450 % ถึง 8.820 % ชี้ให้เห็นว่าถ้าอัตราส่วนนี้มีค่าสูงแสดงว่านักลงทุนจะได้รับเงินปันผลมีค่าสูง 3) คุณภาพกำไรของบริษัทจดทะเบียนในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค มีความสัมพันธ์กับเงินปันผลในทิศทางตรงกันข้ามอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติและพบว่า 4) บริษัทจดทะเบียนในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคที่มีขนาดธุรกิจแตกต่างกันจะมีเงินปันผลแตกต่างกัน แต่คุณภาพกำไรไม่แตกต่างกัน
List(s) this item appears in: ทรัพยากรใหม่ประจำเดือน สิงหาคม 2564
Tags from this library: No tags from this library for this title. Log in to add tags.
    Average rating: 0.0 (0 votes)
Holdings: UTCC

การศึกษาค้นคว้าอิสระ (บช.ม. (การบัญชี)) -- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, 2562.

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) แนวโน้มคุณภาพกำไรและเงินปันผล 2) ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพกำไรกับเงินปันผล และ 3) ศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพกำไรและเงินปันผลโดยจำแนกตามขนาดธุรกิจ โดยเก็บข้อมูลจากบริษัทจดทะเบียนในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มตัวอย่าง คือ บริษัทในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค จำนวน 20 บริษัท แบ่งออกเป็น 2 ขนาดธุรกิจ คือ ธุรกิจขนาดใหญ่ จำนวน 17 บริษัท และธุรกิจขนาดกลางจำนวน 3 บริษัท ศึกษาข้อมูลจากงบการเงินรายปีในระหว่าง ปี พ.ศ. 2556 - 2561 รวม 6 ปี งานวิจัยนี้ใช้สถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสำหรับสถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐาน คือ การวเิคราะห์สัมประสิทธิสหสัมพันธ์ของเพียรสัน กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และการวิเคราะห์เปรียบเทียบคุณภาพกำไรและเงินปันผลโดย จำแนกตามขนาดธุรกิจด้วย t-test กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการศึกษาพบว่า 1) บริษัทส่วนใหญ่มีดัชนีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานแสดงค่าผันผวนซึ่งชี้ให้เห็นถึงการทำกำไรไม่สม่ำเสมอ เมื่อศึกษาปี พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นปีล่าสุดพบว่า บริษัทส่วนใหญ่มีดัชนีกระแสเงินสด จากการดำเนินงานแสดงค่าบวก และมีค่ามากกว่า 1 ซึ่งอยู่ระหว่าง 1.031 เท่า ถึง 7.880 เท่า แสดงว่าบริษัทสามารถก่อให้เกิดกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้ในจำนวนที่สูงพอๆ กับกำไรที่หามาได้และถือว่ากำไรมีคุณภาพ 2) บริษัทส่วนใหญ่มีอัตราเงินปันผลตอบแทนแสดงค่าผันผวน ชี้ให้เห็นถึงการจ่ายเงินปันผลไม่สม่ำเสมอ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทได้เมื่อศึกษาปี พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นปีล่าสุดพบว่า อัตราเงินปันผลตอบแทนประมาณ 0.450 % ถึง 8.820 % ชี้ให้เห็นว่าถ้าอัตราส่วนนี้มีค่าสูงแสดงว่านักลงทุนจะได้รับเงินปันผลมีค่าสูง 3) คุณภาพกำไรของบริษัทจดทะเบียนในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค มีความสัมพันธ์กับเงินปันผลในทิศทางตรงกันข้ามอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติและพบว่า 4) บริษัทจดทะเบียนในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคที่มีขนาดธุรกิจแตกต่างกันจะมีเงินปันผลแตกต่างกัน แต่คุณภาพกำไรไม่แตกต่างกัน

There are no comments on this title.

to post a comment.